สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ผนึกกำลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จัดงานแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “Thailand Travelution 2022” เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ Digital Transformation เต็มรูปแบบ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดงาน และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล” ระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และประธานคณะทำงาน Thailand Travelution 2022 กล่าวว่า งานเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ “Thailand Travelution 2022” เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือและสนับสนุนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ และพันธมิตรเครือข่ายองค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งเสริมให้มีการนำข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการท่องเที่ยว (Tourism Big Data) มาพัฒนารูปแบบการให้การบริการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในภาพรวม สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน อีกทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการสร้าง S-Curve ให้กับทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะการสนับสนุน Startup ของประเทศไทยให้มีโอกาสเพิ่มศักยภาพสู่ระดับโลก ตอกย้ำนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาประเทศทุกภาคส่วน
การจัดทำข้อมูลอัจฉริยะเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว หรือ (Tourism Data Intelligence Sandbox) โดยสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ เริ่มต้นจากนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้ยุทธศาสตร์ Phuket Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่องในการเปิดรับนักเดินทาง จึงจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นนโยบายต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถขยายการเก็บข้อมูลจากนักเดินทางทั่วทุกสนามบินในประเทศไทยได้ภายในปี 2566 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลเชิงลึกจากนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยนำมาใช้ในการวางแผนการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
ในการนี้ได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดงาน และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล” ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ กล่าวรายงานและกล่าวบรรยายสรุปเรื่อง “Tourism Data Intelligence Sandbox” และนายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการท่องเที่ยวด้านดิจิทัลวิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานการจัดงาน “Thailand Travelution 2022”
ภายในงานประกอบด้วย 3 กิจกรรมได้แก่ 1. การนำเสนอมุมมองเชิงนโยบาย และกลยุทธ์การดำเนินการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภายในและจากต่างประเทศ อาทิ คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย, คุณไดแอน ชุย ผู้อำนวยการการตลาด ประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม และผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย Trip.com, คุณดวงขวัญ สินสัตยกูล ผู้จัดการประจำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน Airbnb, คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาค ประเทศ ไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว booking.com
2. การแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวกว่า 30 ราย อาทิ TOUCH Technologies, Synature, Aisoft, AppMan, Krungsri, Metaverse XR ซึ่งคาดหวังว่าภายในงานจะเกิดการเจรจาทางธุรกิจเพื่อนำนวัตกรรมดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวไปต่อยอดสร้างมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท
3. Hackathon กิจกรรมการแข่งขัน เฟ้นหาสุดยอดไอเดียพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยว โดยนำข้อมูลจาก Tourism Data Intelligence Sandbox มาใช้เพื่อพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่จะช่วยยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่ระดับนานาชาติ โดยมีทีมสมัครเข้าร่วมแข่งขันกว่า 40 ทีม เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 450,000 บาท